SELF (Social and Emotional Learning Framework)
คือ องค์กรส่งเสริมสุขภาพจิตที่รวมเอาบุคลากรที่มีความรู้ทางด้านจิตวิทยา พัฒนาการจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น จิตวิทยา การปรึกษาและคุณครูการศึกษาพิเศษที่มีประสบการณ์โดยตรงกับเด็กและผู้ปกครอง มามากกว่า 10 ปี เพื่อร่วมมือกันออกแบบกิจกรรมที่จะช่วยฝึกฝนและพัฒนาทักษะทางอารมณ์และสังคม ให้เกิดเป็นการเรียนรู้ในเชิงปฏิบัติ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการเรียนรู้อย่างสูงสุด โดยเฉพาะกับเด็กในช่วงปฐมวัย ซึ่งเป็นวัยที่สําคัญต่อการเรียนรู้และปลูกฝังรากฐานที่ดีในอนาคต
SELF มีความสําคัญและจําเป็น ต่อการดํารงชีวิต เทียบเท่ากับ ทักษะทางด้านวิชาการ
เพราะเป็นทักษะที่จะช่วยให้เด็กๆ มีทัศนคติที่ดีผ่อนเองและผู้อื่น พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมให้เด็กๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจ เข้มแข็ง ปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้ดี มีทักษะในการควบคุมอารมณ์ และรับมือกับความเครียดได้ดี
เด็กๆใช้เวลาที่โรงเรียนมากถึง 1ใน4 ของเวลาในแต่ละวัน โรงเรียนจึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างเสริมและฝึกฝนทักษะทางสังคมให้แก่เด็ก
ด้วยเหตุนี้ SELF จึงต้องการนําโปรแกรมพัฒนาทักษะทางอารมณ์ และสังคมเข้าไปใช้ในโรงเรียน เพื่อส่งเสริมให้เด็กเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีต่อตนเอง, พัฒนาความสามารถในการจัดการอารมณ์ของตนเอง และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น
ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้เด็กสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมรอบตัว และเติบโตเป็นคนที่มีสุขภาพจิตและบุคลิกภาพที่ดี ซึ่งการเรียนรู้ทักษะต่างๆเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดผ่านกิจกรรมที่สนุกสนานโดยทีมครูผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแก่เด็ก
SELF สำคัญอย่างไร
ทักษะทางอารมณ์และสังคม คือทักษะจําเป็นในชีวิตประจําวันที่ทุกคนจะต้องนํามาใช้เพื่อการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นอย่างราบร่ืนและมีความสุขในตลอดช่วงชีวิต ทําให้ทักษะดังกล่าวมีความสําคัญและส่งผลต่อสุขภาพจิตของบุคคลนั้นๆโดยตรง ดังน้ันนอกเหนือจากความรู้ด้านวิชาการแล้ว ทักษะทางอารมณ์และสังคม จึงเป็นอีกหน่ึงทักษะที่จําเป็นต่อการเรียนรู้และฝึกฝนตั้งแต่เล็กๆ อีกทั้งยังสามารถช่วยป้องกันและลดทอนปัญหาพฤติกรรมต่างๆได้ดีอีกด้วย
SELF: โปรแกรมพัฒนาทักษะทางอารมณ์และสังคม
โปรแกรมของเราพัฒนามาจากแนวคิดของ CASEL ท่ีมุ่งเน้นในการพัฒนาทักษะ 5 ด้านที่สําคัญดังนี้
1.รู้จักตนเอง
เด็กๆจะได้สําารวจและรู้จักตนเองในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านอารมณ์ ความรู้สึก สิ่งท่ีตนเองชอบและไม่ชอบ และรู้เท่าทันความต้องการของตนเอง เพื่อที่จะ ได้สร้างความเข้าใจในตนเองและเรียนรู้ท่ีจะรักและเคารพตนเอง
2.จัดการตนเอง
ในขั้นนี้เด็กๆจะได้ทํากิจกรรมท่ีช่วยส่งเสริมให้พวกเขารู้จักควบคุมตนเอง รู้จักหน้าที่และรับผิดชอบในการกระทําของตน รู้จักแบ่งเวลา เรียงลําดับความสําคัญ รวมถึงได้ทํากิจกรรมท่ีส่งเสริมการคิดอย่างมีแบบแผน
3.สร้างสัมพันธ์
เด็กๆจะได้ฝึกทักษะในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น พวกเขาจะเรียนรู้ที่จะยอมรับในความแตกต่างระหว่างบุคคลและเคารพในความคิดและความสามารถของผู้อื่น รวมถึงเรียนรู้ในการ เอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น อีกทั้งเด็กๆจะได้พัฒนาความสามารถในการปรับตัว และเรียนรู้ที่จะสื่อสารอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ
4.คิดและแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล
เด็กๆจะได้พัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และแยกแยะข้อมูลข่าวสารต่างๆ รู้เท่าทันสื่อ รู้จักประเมินสถานการณ์ต่างๆอย่างเป็นเหตุเป็นผล รับผิดชอบในความคิดเห็นและการกระทําของตนเอง กล้าท่ีจะปฏิเสธเมื่อเห็นส่ิงท่ีไม่เหมาะสม รวมท้ังตัดสิน ใจและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
5.ใส่ใจสังคม
กิจกรรมต่างๆของ SELF จะช่วยให้เด็กๆ มีความมั่นใจในตนเอง รู้จักหน้าท่ีของตน มีความพยายามไปให้ถึงเป้าหมายและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างทาง นอกจากนี้ เด็กๆยังได้เรียนรู้ท่ีจะเคารพสิทธิของตนเอง และผู้อื่นคํานึงถึงส่วนรวม รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น อีกท้ังยังมีความยืดหยุ่น ในสถานการณ์ต่างๆท่ี ตนได้เผชิญ
โปรแกรมของเรา
ADVENTURES IN STORYLAND
วรรณกรรมและเรื่องเล่าน้ันเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกทั้งร้ายและดีที่เกิดข้ึนในตัวละครแต่ละตัว ไม่ต่างกันจากชีวิตประจําวันของเรา ขณะที่เด็กๆได้อ่าน ฟัง และเล่นไปกับเรื่องราวต่างๆ พวกเขาจะได้โอกาสเรียนรู้อารมณ์ท่ีเกิดขึ้นในตนเอง ร่วมรู้สึกและลองเห็นต่างกับอารมณ์ของตัวละคร และบุคคลแวดล้อม ดังนั้นวรรณกรรมและเรื่องเล่าต่างๆ จึงเสมือนประตูบานสําคัญสู่การเรียนรู้ด้านทักษะทางอารมณ์และสังคมของเด็กๆ
SOCIAL AND EMOTIONAL SKILLS
กิจกรรมกลุ่มเชิงปฏิบัติท่ีจะช่วยส่งเสริมและวางรากฐานในการรู้จักตนเอง เพิ่มพูนการรับรู้ตนเองทางด้านบวก เรียนรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสมและเรียนรู้ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์
ART FOR HEART
โลกที่ใช้ศิลปะในการเดินทางสํารวจ ส่ิงที่อยู่ภายในตนเอง โดยการใช้สี เสียง การเคลื่อนไหวของร่างกาย
ในการสะท้อนอารมณ์ภายใน ปลดปล่อยความเครียดและความกังวล พร้อมทั้งพัฒนาทักษะทางด้านความคิดสร้างสรรค์และการสื่อสาร โดยผู้เข้าร่วมไม่จําเป็นต้องมีพื้นฐานทางด้านศิลปะใดๆมาก่อน
บริการนักจิตวิทยาโรงเรียน
บริการให้คําปรึกษาแก่เด็กนักเรียน คุณครู และผู้ปกครอง เพื่อช่วยเหลือและลดทอนปัญหาต่างๆท่ีเกิดข้ึนทั้งที่บ้านและโรงเรียน เช่น การรังแกกัน,ซึมเศร้า, Body-image issue, Classroom management เป็นต้น
บริการให้ความรู้ความเข้าใจด้านสุขภาพจิต
บริการจัดการอบรมให้แก่ครู นักเรียน และผู้ปกครอง เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในด้านสุขภาพจิต เช่น Positive Discipline, Active Listening, Social & Emotional Expression and Regulation เป็นต้น
การเล่นบำบัด
เป็นรูปแบบหน่ึงของการบําบัดท่ีนําศาสตร์ของการเล่นมาประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมและพัฒนาเด็ก โดยใช้การเล่นเป็นสื่อกลางในการช่วยให้เด็กๆได้แสดงออกทางความรู้สึก เล่าประสบการณ์ ความคิด และปัญหาที่เขาเผชิญผ่านการเล่นในห้องเล่นบําบัดสําหรับเด็กๆแล้ว การพูด บอกความรู้สึก หรือบอกถึงปัญหาของตนเองอาจเป็นสิ่งที่ยาก การเล่นบําบัดจะช่วยทําให้เด็กๆแสดงออกทางอารมณ์ได้มากข้ึน เข้าใจตนเองมากขึ้นและรู้จัดการกับ ปัญหาด้วยตนเองอย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย โดยมีนักเล่นบําบัดคอยสังเกตอารมณ์และความรู้สึกและสะท้อนความรู้สึกของเด็กๆที่เกิดขึ้นในห้องเล่นบําบัด การเล่นบําบัดเหมาะสําหรับเด็กช่วงอายุระหว่าง 3-12 ปี นักเล่นบําบัดจะใช้เทคนิคการเล่นและอุปกรณ์หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการของเด็ก เช่น การเล่าเรื่อง ทรายบําบัด เป็นต้น การเล่นบําบัดมักจะใช้ในเด็กท่ีประสบปัญหาด้านอารมณ์หรือพฤติกรรม การสื่อสาร ขาดทักษะทางสังคม ความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ ปรับตัวยาก มีปัญหาความสัมพันธ์กับผู้อื่น ก้าวร้าว มีความวิตกกังวลสูง เป็นต้น